คำนาม
ภาษาอังกฤษ

คำนาม หรือ Noun เรียนรู้คำนามประเภทต่างๆในภาษาอังกฤษ ว่ามีอะไรบ้างและใช้อย่างไร

คำนาม

คำนาม หรือ Noun ใช้อย่างไรได้บ้าง

คำนาม หรือ Noun มีตัวย่อคือ n. หลายๆท่านอาจจะเกิดความสงสัยว่า คำนาม คืออะไร ? วันนี้แอดจะมาอธิบายว่า คำนามภาษาอังกฤษ สามารถเอาไปใช้อย่างไรได้บ้าง คำนามคือคำที่เอาไว้เรียก ชื่อ, คน, สัตว์, สิ่งของ, สถานที่ หรือสิ่งของที่จับต้องได้และไม่ได้ รวมไปถึงอารมณ์ ความคิด ความรู้สึก และการกระทำ ซึ่งคำนามแบ่งย่อยออกไปได้อีกหลายประเภทเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น

● Common Noun (คำนามทั่วไป)
● Proper Noun (คำนามชี้เฉพาะ)
● Singular Noun (คำนามเอกพจน์)
● Plural Noun (คำนามพหูพจน์)
● Collective Noun (สมุหนาม)
● Countable noun (คำนามนับได้)
● Uncountable noun (คำนามนับไม่ได้)

ซึ่งแต่ละหัวข้อก็จะมีรายละเอียดแยกย่อยลงไปอีก ซึ่งวันนี้เราจะยกตัวอย่างมาให้ท่านเห็นว่า คำนามในภาษาอังกฤษมีอะไรบ้าง ท่านสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมและฝึกฝน เพื่อพัฒนาสกิลภาษาอังกฤษให้เก่งมากยิ่งขึ้นได้ด้วย

คำนาม มีอะไรบ้าง ? ในภาษาอังกฤษ มีกี่ประเภท

คำนาม มีอะไรบ้าง แล้ว Noun มีกี่ประเภท กันนะ วันนี้แอดจะพาไปรู้พื้นฐานง่ายๆก่อนเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ซึ่ง ประเภทของคำนาม นั้นมีอยู้ด้วยกันทั้งหมด 7 ประเภท

Common Noun หรือ คำนามทั่วไป

เป็นคำนามที่เอาไว้ใช้เรียก คน, สัตว์, สิ่งของ หรือสถานที่ทั่วๆไป แบบไม่เจาะจง เช่น child (เด็ก), dog (สุนัข), woman (ผู้หญิง), fruit (ผลไม้), car (รถยนตร์), city (เมือง) เป็นต้น

Proper Noun หรือ คำนามชี้เฉพาะ

เป็นคำนามที่จะใช้เรียกเฉพาะเจาะจง เช่น ชื่อคน, ชื่อสถานที่, ชื่อเฉพาะ มักจะขึ้นต้นด้วยตัวอักษรตัวแรกเป็นตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ
ยกตัวอย่างเช่น – เรียกชื่อเฉพาะ : Adam, Maria, Toyota, Mazda / เรียกชื่อประเทศหรือสัญชาติ : Bangkok, Thai, Japan, Indian / เรียกชื่อแม่น้ำหรือสถานที่ : The Chao Praya River, Eiffel Tower

Singular Noun หรือ คำนามเอกพจน์

เป็นคำนามที่มีเพียงอันเดียว มีสิ่งเดียว อย่างเดียว ชิ้นเดียว ซึ่งปกติแล้วต้องใส่ A และ An เสมอ เช่น a woman, a colleague, a hen, an ant, an hour, a university เป็นต้น

Plural Noun หรือ คำนามพหูพจน์

เป็นคำนามที่มีมากกว่า 1 อันหรือ 1 อย่าง มีตั้งแต่ 2 จำนวนขึ้นไป ซึ่งหากมีมากกว่า 1 ให้เติม S หลังคำนามนั้นๆด้วย เช่น Three Girls, Two Students, Eight hens, Four hospitals เป็นต้น

แต่ช้าก่อน มันจะมีข้อยกเว้นเกี่ยวกับคำนามข้อนี้ แอดจะพาไปดูกฎของการเติม -s, -es, -ies และ -ves เริ่มกันที่

  • กฎการเติม -s จะเติมหลังคำนามทั่วไป เช่น girls, books, airports เป็นต้น
  • กฎการเติม -es จะเติมเมื่อคำนามนั้นๆลงท้ายด้วย -ch, -sh, -s, -ss และ -o เช่น bus – buses, video – videos, wish – wishes, dress – dresses เป็นต้น
  • กฎการเติม -ies จะเติมเมื่อคำนามนั้นลงท้ายด้วย -y เช่น country – countries, baby – babies, story – stories เป็นต้น แต่จะมีบางตัวที่ไม่เติม แต่เติม -s ไปเลย เช่น day – days, key – keys เป็นต้น
  • กฎการเติม -ves จะเติมเมื่อคำนามนั้นลงท้ายด้วย -f ให้ตัด -f ออกแล้วเติม -ves เช่น calf – calves เป็นต้น
  • จำมีคำนามที่ไม่เปลี่ยนรูปเลย ทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ เช่น fish, sheep, species, series, deer เป็นต้น
  • คำนามบางคำก็เปลี่ยนสระหรือเปลี่ยนรูปไปเลย เช่น man – men, mouse – mise, person – people เป็นต้น
  • คำนามที่เป็นพหูพจน์เสมอ ไม่มีทางเป็นเอกพจน์ ซึ่งจะต้องเติม -s อยู่หลังคำนามนั้นๆ ด้วยเสมอ เช่น jean – jeans, pant – pants, slipper -slippers, sunglasses เป็นต้น

Collective Noun หรือ สมุหนาม

เป็นคำนามที่ใช้เรียกแทนอะไรที่เป็นกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคน, กลุ่มสัตว์ หรือ กลุ่มสิ่งของ ซึ่งในส่วนของ Collective Noun สามารถเป็นได้ทั้ง เอกพจน์ และ พหูพจน์ก็ได้เช่นเดียวกัน

  • อธิบายกลุ่มของสิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่พร้อมกัน ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของคน สัตว์ หรือวัตถุ เช่น “herd” ใช้เพื่ออธิบายกลุ่มของสัตว์ที่อยู่ด้วยกัน
  • ใช้ในประโยคที่เป็นข้อความเพื่ออธิบายสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นกลุ่ม ๆ รวมกัน เช่น “The team is working hard.”
  • เช่น A family : ซึ่งในความหมายนี้คือต้องมีตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปถึงจะใช้คำนี้ได้ / A team : ทีมนี้ต้องมีอย่างน้อย 2 คนขึ้นไป / The audience : ต้องมีผู้ชมอย่างน้อย 2 คนขึ้นไป / swarm : กลุ่มของแมลงที่บินรวมกัน / fleet : กลุ่มของยานพาหนะที่เดินทางร่วมกัน เป็นต้น

Countable Noun หรือ คำนามนับได้

เป็นคำนามที่มองเห็นอย่างชัดเจนสามารถจับต้องและนับได้ ซึ่งจะอยู่ในรูปเอกพจน์หรือพหูพจน์ ก็ได้ แต่หากอยู่ในรูปเอกพจน์ คำนามเหล่านี้จะใช้ A, An นำหน้า ซึ่งใช้กับนามที่มี 1 อันเท่านั้น ส่วน The จะใช้กับคำนามที่มี 1 อันหรือ 2 อันขึ้นไปก็ได้ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับจำนวนแต่เป็นการระบุเจาะจง

  • เช่น one dog, two men, two ideas เป็นต้น
  • ปกติจะใช้ Countable Noun + กริยาไม่เติม s อย่างเช่น Student are happy, own a house เป็นต้น

Uncountable noun หรือ คำนามนับไม่ได้

เป็นคำนามที่ไม่สามารถนับหรือระบุจำนวนได้ชัดเจน มองไม่เห็น หรือเป็นนามธรรมที่เล็กเกินกว่าจะระบุหรือมองเห็นได้

  • เช่น tea, sugar, water, air, love เป็นต้น
  • ปกติ Uncountable noun + กริยาเติม s เพราะปกติแล้วคำนามนับไม่ได้จะไม่มีรูปพหูพจน์ เช่น Suger is not good for health เป็นต้น
  • ซึ่งเราไม่สามารถใช้ a และ an นำหน้าคำนามเหล่านี้ได้ แต่ถ้าหากต้องการระบุปริมาณของคำนามเหล่านี้นั้น จะต้องใช้คำที่บอกปริมาณอย่างเจาะจง เช่น some, a lot of, much, a bit of, a great deal of เป็นต้น

 

อ่านบทความอื่นๆเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ : คลิก !!

บทความที่กำลังมาแรง : ของใช้ภาษาอังกฤษ

ปิดความเห็น บน คำนาม หรือ Noun เรียนรู้คำนามประเภทต่างๆในภาษาอังกฤษ ว่ามีอะไรบ้างและใช้อย่างไร